วันที่ 21 ต.ค.
คิดถึงการนั่งกระเด้งกระดอนบนรถบัส ทำให้พวกเราเมินอย่างสิ้นเชิง มติเป็นเอกฉันท์ที่จะเหมารถลงจากเต้าเฉิงไปแชงกรีลา

การเดินทางอันสมบุกสมบัน สงสารก้น เริ่มขึ้นอีกครั้ง สภาพอากาศในรถเรียกได้ว่าเจอทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งหนาวมากใส่เสื้อผ้า 5 6 ชั้น ไปถึงร้อนมาก ถอดเหลือแต่เสื้อในสุดตัวเดียว ยังไม่พอสู่พายุทะเลทรายก็มา ต้องเอาผ้าพันคอพันไว้ไม่ให้เข้าจมูก รถก็ไม่มีแอร์ต้องเปิดกระจกไว้ไม่งั้นสุกหมู่
ส่วนห้องน้ำนั้น หึหึ อันแรกก็ยังพอได้อยู่ เป็นห้องน้ำแยกหญิงชายแต่ไม่มีประตู แต่อันที่สองน่ะเหรอ กว้างงงง กว้างมากก โล่งเลยค่ะ บนยอดเขามีพุ่มไม้เล็กน้อย เลือกพุ่มตามอัธยาศัย ฉี่บนหิมะด้วยแหละ คิคิ

ปัญหาที่… จำเลขไม่ได้ละ เลิกนับละ คนขับรถหายตัว
เข้าเมืองอันเจริญที่หนึ่ง เขาก็ถามว่าจะกินข้าวไหมพวกเราไม่กิน เขาจอดรถแล้วไปไหนไม่รู้คือตอนแรกน่ะ เข้าใจว่าคนนี้ขับครึ่งทางแล้วเปลี่ยนรถ เป็นอีกคนขับไปอีกครึ่งทาง แล้วที่หายไปก็คือไปหาคนขับอีกคน ซึ่ง… เปล่าเลย

หนีไปกินข้าว เยี่ยมมมมมม
ที่เจอนี่คือ เดินหาห้องน้ำไม่เจอจนไปถึงร้านข้าวแล้วพบว่า นั่งโซ้ยข้าวอยู่ เอาล่ะ กินก็กิน สั่งข้าวผัดกันมากินเลยปล่อยให้คนขับรอบ้าง โกรธธธธ
เดินทางต่อ ริมถนนหนทางเริ่มไม่ตื่นเต้นแล้ว มีต้นไม้สีนู่นนี่นั่น ลำธาร วิวไหนสวยก็จอดแวะถ่าย ส่วนใหญ่เป็นเพลียแดดหลับเสียมากกว่า
สิ่งที่ไม่คิดว่าเจอคือคนนั่งขี้ริมถนน เฮลโล่ พุ่มไม้หน่อยไหมเห็นก้นเต็มตาเลย ฮาาาา
ถึงแชงกรีล่า นู่นนนน เกือบเย็น พักที่บ้านคุณป้าที่เดิม เดินไปวัดระฆังทองกันอีกสักรอบ
กินข้าวกันชาบู เอ้าไฟมา

เขียนโปสการ์ดส่งกลับเมืองไทย เพี้ยง… ถึงบ้านนะ อย่าหายอย่าตีกลับ