วันที่ 19 ต.ค.
จากบล๊อกที่แล้วที่บอกว่าที่สุดแล้ว มันยังไม่จบค่ะ มีขั้นกว่าอีก
นั่นคือ “ทะเลสาปห้าสี”
วันนี้เราจะเดินทางไกลกัน ควรเตรียมเสบียงสำหรับมือเที่ยงไปด้วยนะคะ จะสั่งจากที่พักหรือจะซื้อข้าวกล่องสำเร็จรูปก็ได้ (อันนี้หลังนี่เสียดายมากไม่ได้ลอง) หม่ำข้าวเช้าแล้วก็ ลุย!

ต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วนั่งรถบัสคันเล็กเพื่อเข้าไปด้านใน จะไม่นั่งรถก็ได้เขามีจัดทำทางเดินไว้ให้ นั่งรถก็ปาไป 10 15 นาทีแล้ว ถ้าเดินนี่คงเป็นชั่วโมง ควรออมแรงไว้ดีกว่าจ้า
วิวตลอดทางนั่งรถกอล์ฟสวย ยิ่งเวลาทางโค้งแล้วเห็นวิวมัน ว้าว…
เอาล่ะ เป้าหมายแรกคือห้องน้ำ หือ… แวะไว้ก่อนดีแล้วค่าเพราะระหว่างไม่มีห้องน้ำนะจ๊ะ เป้าหมายที่สองคือ ม้า ตั้งใจแน่วแน่มากที่จะนั่งม้าถ้าใช้ขาตัวเองวันนี้ก็คงไม่ถึง โชคชะตาไม่เป็นใจ ม้าหมด เออเดินก็เดิน…



พื้นราบเรียกได้ว่าถ่ายรูปไปได้เรื่อย ๆ วิวที่นี่มันสวยจริงนะมันธรรมชาติมากอุดมสมบูรณ์โคตร (หรือจริงแล้วมันมายาก)

ชีวิตเริ่มไม่ชิวเมื่อเจอทางภูเขาคือมันไม่ใช่ทางที่สวยงาม ต้องปีนบ้าง เหยียบโคลนบ้าง ลำธารก็มา ขี้ม้าก็มี ที่ไม่มีคืออากาศหายใจ ออกซิเจนอยู่ไหน เฮลโล่…

ท้อมากเลย ไม่เคยรู้สึกเอาตัวเองมาทรมานทรกรรมทำเพื่อสิ่งใดฟะ และในที่สุด… ตามพี่ ๆ เขาทัน (คือต่างคนต่างเดิน) นั่งปิคนิคกินข้าว ไม่ไปแล้วเพราะยังไม่ถึงครึ่งทางเลย กว่าจะถึงแล้วกว่าจะกลับอีกไม่น่าทันฟ้ามืดแน่ Loser แงงงงง




ความสวยติดตา… ส่วนความเหนื่อยตราตรึงใจไปอีกนาน
บ๊ายบายนะ… ภูเขาคงไม่อยู่ในลิสต์การเที่ยวไปอีกสักพัก
ป.ล. ถ้าใครจะไปหัดเข้าพุ่มไม้ให้เป็นนะจ๊ะ เพราะว่าไม่มีห้องน้ำระหว่างทาง ที่สำคัญถ้าจะไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย เดิน ๆ ๆ เข้าไปค่ะ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปชื่นชมวิวทิวทัศน์
ป.ล.ล. นอกเรื่อง มาม่าจีน อร่อยยยยยยย มีหลายรสหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่จะมัน
มีอยู่รสนึงโปรดปรานมาก เหมือนมาม่าหมูสับเมืองไทยแต่เข้มข้นกว่า นึกถึงแล้วน้ำลายไหล แพล่บ ๆ